โครงการสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเลและชายฝั่งบนเกาะระ จ.พังงา บานปลาย หลังกมธ.องค์กรตามรัฐธรรมนูญฯลงพื้นที่พบร่องรอยการบุกรุกทำลายป่า กังขากรมอุทยานฯกันพื้นที่ถึง 139 แปลงจี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ด้านชาวบ้านในพื้นที่ชี้การตัดไม้เพิ่มมากในช่วง 1-2 ปี หวั่นนายทุนยึดเกาะแถมหลอกคนนอกเกาะเข้าซื้อที่ดินและปลูกต้นยางรอออกสทก.
นายเฉลิมชาติ การุญ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าของโครงการจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเลและชายฝั่งเกาะระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ที่องค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้ทำเรื่องขอใช้พื้นที่ไปและได้มีการศึกษาและสำรวจพื้นที่จัดทำแผนแม่บทของเกาะระ- พระทองเสร็จสมบูรณ์แล้วนั้น ขณะนี้มีกลุ่มชาวบ้านร้องเรียนมายังกรรมาธิการฯเรื่องความไม่ชอบมาพากลในเรื่องของการออกสิทธิที่ดินทำกิน(ส.ท.ก.)จำนวน 139 แปลง ของกรมป่าไม้ทั้งที่มีชาวบ้านอยู่พักอาศัยทำกินบนเกาะเพียง 32 ครอบครัว เท่านั้น
นายเฉลิมชาติ กล่าวว่าจากการลงพื้นที่ของกรรมาธิการฯพบว่าพื้นที่ของเกาะมีความสมบูรณ์อย่างมาก ทั้งระบบพันธุ์ไม้และสัตว์ต่างๆ สอดคล้องกับนักวิชาการอาทิ ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ที่ปรึกษาสมาคมพืชสวน ตัวแทนสมาคมไม้ประดับ ตัวแทนจากกรมประมง ตัวแทนสถาบันการท่องเที่ยวเพื่ออนุรักษ์และสิ่งแวดล้อม และสถาบันสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร มศว. ตัวแทนจากนักวิชาการด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการจัดการที่เห็นว่าควรนำพื้นที่เกาะระนี้มาทำโครงการสวนพฤกษศาสตร์เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติของเด็ก และกลุ่มนักวิจัยทั้งไทยและชาวต่างชาติ ทั้งสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่มากขึ้นจากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศด้วย
"การลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องการตรวจสอบใน 2 ประเด็นคือ เรื่องข้อร้องเรียนที่ชาวบ้านร้องเข้ามาว่ามีการออกส.ท.ก. 139 แปลง โดยมิชอบจริงหรือไม่ กับประเด็นสภาพความเป็นจริงของพื้นที่เกาะเพื่อทำโครงการสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเลและชายฝั่งว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ แต่เมื่อมีการเดินตรวจพื้นที่กลับพบสภาพการบุกรุกถางป่าและทำการปลูกต้นยางขึ้นมาทดแทน ซึ่งเรื่องนี้ทางกมธ.คงจะทำรายงานการลงพื้นที่ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป ทั้งมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งหาคำตอบมาชี้แจงว่ามีคนอยู่แค่ 30 กว่าคน แต่ทำไมต้องกันพื้นที่ถึง 139 แปลงหมายความว่าอย่างไร และมีการปลูกต้นยางใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 3 ปี เรื่องเหล่านี้คงต้องพิสูจน์กันต่อไป"
นอกจากนี้ยังได้ตรวจพื้นที่ส่วนที่กรมอุทยานแห่งชาติ เตรียมกันพื้นที่ให้กับโครงการสวนพฤกษศาสตร์กลับพบว่าเป็นพื้นที่ลาดชันเป็นหน้าผา และบางส่วนเข้าดูพื้นที่ไม่ได้เพราะมีรั้วปิดกั้นอยู่ ทั้งๆ ที่ถูกระบุให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ได้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะทำโครงการอะไรก็คงต้องไม่ให้เกิดผลกระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชนและไม่กระทบต่อความเปลี่ยนแปลง จึงเตรียมที่จะจัดเสวนาเรื่อง "อนาคตเกาะระ มรดกไทยสู่มรดกโลก" ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้เพื่อให้เป็นเวทีให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและรวบรวมความเห็นเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
ด้านนายศิริพงษ์ ทังสพฤกษ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวถึงเรื่องพื้นที่ว่าพื้นที่บางส่วนได้มีการประกาศสิทธิให้ชาวบ้านไปแล้ว ซึ่งเห็นว่าต้องมีความพอดีกับวิถีชีวิต โดยจะร่วมกับกระทรวงและกรมอุทยานแห่งชาติในการดูแลพื้นที่ และที่ผ่านมาได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดแล้วกว่า 10 แปลง หรือประมาณ 70 ไร่ และการกันพื้นที่ออกส.ท.ก. 139 แปลงนั้นปัจจุบันจากการตรวจสอบผู้ที่ยื่นหลักฐานเข้ามาพบว่าไม่เข้าเงื่อนไขจึงถูกตัดสิทธิออกไปเหลือเพียง 89 แปลง
"ฐานเศรษฐกิจ"ได้สอบถามจากชาวบ้านในพื้นที่เกาะระพบว่า ผู้อยู่อาศัยเดิมอยู่อาศัยกันมากว่า 100 ปี มีอยู่เพียงไม่กี่ครอบครัว แต่ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีกลุ่มนายทุนเริ่มเข้ามาถางพื้นที่ป่ามากขึ้น ทั้งกลุ่มทุนจากสุราษฎร์ธานีและมีการรวบรวมที่ดินเพื่อเตรียมนำไปขายให้กับนายทุนต่างชาติด้วย ถ้าหากภาครัฐไม่มีการดำเนินการอย่างไรแล้วเชื่อว่าอาจจะมีการบุกรุกที่ดินเพิ่มมากขึ้นและชาวบ้านที่อยู่อาศัยจริงอาจจะอยู่ไม่ได้
ขณะเดียวกันมีชาวบ้านรายหนึ่งที่ไม่ได้อยู่บนเกาะกล่าวว่าตนเองถูกชักจูงจากคนรู้จักให้เข้าไปซื้อที่ดินที่เกาะระบริเวณหัวเขาตาหวานหรือบันได 40 ขั้นและเข้าไปถางป่าทำการปลูกไม้ยางแทนโดยบอกว่าจะได้รับสิทธิทีหลัง แต่ตนเองเกรงว่าจะเสียทั้งพื้นที่และเสียเงินไปทั้งหมด จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาความช่วยเหลือด้วยและถ้าปล่อยไปแบบนี้เกรงว่าจะมีคนที่หลงเชื่อเข้าไปซื้อที่ดินเพิ่มมากขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,544 1-3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
2 ความคิดเห็น