ข้อมูลทั่วไป
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 50 นายเอกชัย พุทธซ้อน อายุ 23 ปี ชาวประมงบ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 50 ขณะที่ตนและเพื่อนอีก 5 คนออกไปดำน้ำหาเศษเหล็กในทะเลห่างจากบ้านน้ำเค็มประมาณ 5 กิโลเมตร ห่างจากฝั่งประมาณ 3 ไมล์ทะเล น้ำลึกประมาณ 6 เมตร สังเกตเห็นซากเรือไม้โบราณขนาดใหญ่มีความกว้าง 4 เมตร ยาว 15 เมตร ลักษณะคล้ายเรือสำเภา อยู่ในสภาพผุพัง จึงชวนกันดำลงไปดูพบเหล็กขนาดต่างๆ 5 ท่อน และถ้วยชามขนาดต่างๆแต่พอเอาค้อนเคาะหินและหอยเพลียงที่เกาะเหล็กนั้นออกมาพบว่าเหล็กดังกล่าวเป็นปืนโบราณ ความยาวประมาณ 1.30 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว 2 กระบอก และขนาดยาว 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ขนาด 4 นิ้ว 3 กระบอกจึงได้นำขึ้นเรือมาไว้ที่บ้านพอข่าวแพร่สะพัดออกไปก็มีทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ อบต.อำเภอ มาดูกันเป็นจำนวนมากบ้างก็มาจุดธูปเทียนขอหวยกันมากมายคาดว่าปืนดังกล่าวน่าจะอยู่ในสมัยที่ไทยทำการค้ากับต่างชาติสมัยเมืองทุ่งตึกที่อยู่บนเกาะคอเขา ทั้งยังเคยเป็นเมืองท่าค้าขายสมัยโบราณ ทุกวันนี้ยังคงเหลือแต่ร่องรอยเมืองโบราณล่าสุด นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้เดินทางไปดูด้วยตนเองและเปิดเผยว่า ยังไม่ทราบว่าปืนโบราณดังกล่าวสร้างในสมัยใดและเรือสำเภาดังกล่าวจมลงนานเท่าใด ที่มองดูแล้วคาดว่าน่าจะมีอายุเก่าแก่หลายร้อยปีเบื้องต้นต้องรอให้เจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากรซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาปืนดังกล่าวไว้และส่วนหนึ่งก็ต้องไปเฝ้าระวังในจุดที่เรือสำเภาจมเพื่อป้องกันชาวบ้านดำลงไปงมหาสมบัติในเรือซึ่งต้องให้มีการค้นหาและเก็บรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป
