http://kohkhokhao.igetweb.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
หน้าแรก บทความ  ข้อมูลทั่วไป ข่าวสาร อสังหาริมทรัพย์ รวมรูปภาพ เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
Menu
หน้าแรก
ข้อมูลทั่วไป
ที่พัก & โรงแรม
ข่าวสาร
อสังหาริมทรัพย์
สินค้าชุมชน
ภาพจากเกาะคอเขา
แผนที่เกาะคอเขา
หนังสือพิมพ์
เว็บบอร์ด
ท่องเที่ยวเกาะคอเขา
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวสิ่งแวดล้อม
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับที่ดิน
เรื่องเล่าจากพลเมือง
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
iGetWeb.com
เว็บสำเร็จรูป ทำเว็บ สร้างเว็บ




 

เร่งหามาตรการควบคุมธุรกิจเรือแคนู-เรือคายัคที่มีแนวโน้มเติบโตรวดเร็ว

เร่งหามาตรการควบคุมธุรกิจเรือแคนู-เรือคายัคที่มีแนวโน้มเติบโตรวดเร็ว

ท่องเที่ยวอ่าวพังงาประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เผยแคนู ซีคะยัค ทำรายได้เข้าประเทศเดือนละไม่ต่ำกว่า 17 ล้านบาท เร่งหามาตรการควบคุมดูแลก่อนสร้างปัญหาตามมาจนยากแก้การแก้ไข และกระทบท่องเที่ยว นายสุนทร สกุลสัน อุปนายกสมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวบริเวณอ่าวพังงา ว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวอ่าวพังงาอยู่ในระดับที่ดีมาก มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละวัน ถือว่าประสบความสำเร็จจากการทำตลาดท่องเที่ยวอ่าวพังงา และในส่วนของผู้ประกอบการนำเที่ยวอ่าวพังงาอยากเห็นการท่องเที่ยวของอ่าวพังงาเป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน จึงเน้นพัฒนาการท่องเที่ยวในรูปแบบการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เน้นจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขึ้นมารองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่ผ่านมามีการดึงนักวิชาการมาศึกษาและวางแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวของอ่าวพังงา เพื่อที่จะช่วยกันรักษาแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวให้อยู่ได้นานที่สุด จากการศึกษาแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบผจญภัย หรือเชิงอนุรักษ์บริเวณอ่าวพังงา นั้นจะเน้นศึกษาในเรื่องของกิจกรรมการท่องเที่ยวที่มีอยู่แล้ว คือ แคนู และคายัค ซึ่งปัจจุบันนี้กิจกรรมดังกล่าวค่อนข้างที่จะเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด หากปล่อยให้มีการเติบโตโดยไม่มีการควบคุมทั้งในเรื่องของการทำตลาด และจำนวนนักท่องเที่ยว สิ่งที่ตามมาคือแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนหวังจะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรม หลังจากนั้นก็จะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวที่อ่าวพังงา สิ่งที่ตามมาคือ รายได้จากการการท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็จะหมดไปด้วย นายสุนทร กล่าวว่า การท่องเที่ยวบริเวณอ่าวพังงาซึ่งมีบริษัทนำเที่ยวหลายบริษัทที่ใช้ทรัพยากรอ่าวพังงา ทั้งในส่วนของจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา ประสบปัญหาเรื่องมาตรฐานของผู้ประกอบการ เพราะที่ผ่านมายังไม่มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนของผู้ประกอบการ แคนู คะยัค ว่าจะต้องมีมาตรการการประกอบการอย่างไร เพราะธุรกิจนี้เป็นธุรกิจใหม่ เมื่อไม่มีมาตรฐานเข้ามาควบคุมปัญหาอื่นๆก็ตามมามากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องของการทำตลาด ปัญหาการตัดราคากัน หรือการจัดท่องเที่ยวแบบทัวร์สูญเหรียญ ซึ่งการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติ ต้องรีบดำเนินการแก้ไข เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติในอนาคต และหลังจากกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนแล้ว ผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานในเรื่องของความปลอดภัย บุคคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ การใช้ทรัพยากรของแหล่งท่องเที่ยวซึ่งมักจะได้รับผลกระทบจากการเข้าไปประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม ขยะ น้ำเสีย ปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการ แคนู และคะยัค ที่ให้บริการอยู่ที่อ่าวพังงามีจำนวน 17 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ต มีบางส่วนที่เป็นผู้ประกอบการในจังหวัดพังงา ส่วนพื้นที่การประกอบการนั้นเป็นพื้นที่ที่อยู่ในบริเวณจังหวัดพังงา นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการนั้นส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรป รองลงมาคือตลาดเอเชีย ซึ่งขณะนี้ตลาดเอเชียกลุ่มนี้จะเติบโตเร็วมากในอนาคตอันใกล้นี้คิดว่าตลาดเอเชียจะเข้ามาทดแทนตลาดจากยุโรปแน่นอน โดยปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการประมาณ 2 แสนคน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตเกิน 100% แนวโน้มการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ประเภทเรือแคนู และเรือคายัคที่อ่าวพังงา ในปีนี้คาดว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น และตลาดที่เพิ่มคิดว่าน่าจะเป็นตลาดเอเชีย ส่วนรายได้จากการประกอบธุรกิจดังกล่าว คาดว่าแต่ละบริษัทจะมีรายได้หมุนเวียนประมาณ 1 ล้านบาทต่อเดือน หรือทำรายได้เข้าประเทศรวมเดือนละประมาณ 17 ล้านบาท เพราะปัจจุบันนี้มีปบริษัทที่ทำธุรกิจทางด้านนี้จำนวน 17 บริษัท
: สำนักข่าวไทย

Tags :

 
view