6 หอการค้าจังหวัดอันดามันผนึกกำลัง จัดตั้งคณะกรรมการร่วม ดันจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวร่วมกันของภาคเอกชนในเขตพื้นที่ 6 จังหวัด ก่อนชงต่อให้สภาพัฒน์ บรรจุเข้าในแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับใหม่ เผยมีตั้งแต่การพัฒนาการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวยันระบบคมนาคม
คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดกลุ่มอันดามัน มีหน้าที่หลักในการประสานการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของภาคเอกชนในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน พร้อมทั้งนำเสนอโครงการเร่งด่วน เพื่อการฟื้นฟูพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เพื่อใช้นำไปพิจารณาบรรจุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่ สำหรับผลการประชุมล่าสุดที่จังหวัดพังงา ซึ่งมีคณะทำงานประกอบด้วย หอการค้าจังหวัด,สภาอุตสาหกรรม,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,สำนักงานจังหวัดในกลุ่มอันดามันเข้าร่วมประชุมและระดมความคิดเห็นสามารถสรุปรายละเอียดได้ ดังนี้
จังหวัดสตูล มีประเด็นข้อเสนอเพื่อนำเข้าสู่แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว คือ 1.ให้มีการก่อสร้างสะพานและท่าเทียบเรือที่เกาะหลีเป๊ะ,เกาะอาดัง,และเกาะบุโหลน เพื่อรองรับการท่องเที่ยว 2.ให้มีการสนับสนุนอุปกรณ์การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซล 3. ให้มีการจัดการด้านน้ำเสียในพื้นที่ท่องเที่ยว จังหวัดตรัง 1.ให้มีการกำหนดแผนงานและงบประมาณเชื่อมเส้นทางเลียบชายฝั่งทะเลในกลุ่มอันดามันให้ชัดเจน 2. ผลักดันการเชื่อมเส้นทางรถไฟจากจังหวัดตรังให้เป็นประโยชน์ในการสนับสนุนการท่องเที่ยวในกลุ่มอันดามัน
จังหวัดกระบี่ 1.ขอให้มีการกำหนดขยะและน้ำเสียให้เป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากปัจจุบันเป็นปัญหาของทุกจังหวัด 2. ให้พัฒนาแหล่งน้ำและศึกษาแนวทางในการผันน้ำจากเขื่อนรัชประภาเพื่อใช้รองรับการขยายตัวของการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามัน 3.การพัฒนาขีดความสามารถสนามบินจ.กระบี่ ให้เป็นสนามบินนานาชาติ โดยโอนความรับผิดชอบจากกรมการบินพาณิชย์ ให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยดูแลแทน
จังหวัดระนอง เสนอให้ปรับปรุงและขยายเส้นทางระหว่างจังหวัดชุมพร-ระนอง ให้สะดวกปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งศึกษาเส้นทางรถไฟระหว่างชุมพร-ระนอง เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งสินค้าและนักท่องเที่ยวชายฝั่งอันดามันและอ่าวไทย จังหวัดภูเก็ต ประเด็นเสนอ 1.ให้ศึกษาเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟระหว่างฝั่งอ่าวไทยกับอันดามัน จากจังหวัดชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่ และกันตัง เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งสินค้าและนักท่องเที่ยว 2.ส่งเสริมระบบขนส่งมวลชนโดยการปรับปรุงกฎหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบดูแล 3. จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในกลุ่มจังหวัดอันดามัน
4.ส่งเสริมมาตรการด้านภาษีเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีระบบการรีไซเคิลขยะ
นางสุดาพร กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ดังนี้ 1.แผนพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน ขอให้มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพคนเป็นลำดับแรก 2. ให้มีการเข้มงวด กวดขันด้านการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว 3. ให้มีการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น 4.ยกระดับกลุ่มอันดามันให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว 5.ส่งเสริมการอนุรักษ์พันธ์ไม้พลับพลึงธาร ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้หายากเพื่อป้องกันการสูญพันธ์และลักลอบส่งไปขายต่างประเทศ 6. ให้มีการทบทวนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติให้เหมาะสมและคุ้มค่า โดยให้มีการจัดเก็บค่าเข้าจากนักท่องเที่ยวเพียงจุดเดียว
ประเด็นข้อเสนอทั้งหมดทางคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดอันดามัน จะนัดประชุมพิจารณาทบทวนอีกครั้ง ก่อนที่จะสรุปรวบรวมส่งต่อให้กับคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ซึ่งผลการจากจัดทำยุทธศาสตร์ร่วมในครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของการร่วมมือของภาคเอกชนใน 6 จังหวัดที่จะได้จัดทำแผนการพัฒนาให้สอดคล้อง เชื่อมโยงกันแต่ละจังหวัด ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาพื้นที่อันดามันโดยรวม
0 ความคิดเห็น