ดู ภูมิศาสตร์พระอภัยมณี ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
ทะเลอันดามัน “มรดกโลก”
มี“เกาะแก้วพิสดาร”
ในพระอภัยมณี ของ สุนทรภู่
ปรับปรุงเนื้อหาจากหนังสือ 2 เล่ม 1. อันดามันสุวรรณภูมิ ในประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ ของ สุจิตต์ วงษ์เทศ. สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2548 .2.สุนทรภู่ เกิดวังหลัง ผู้ดี “บางกอก” มหากวีกระฎุมพี มีวิชารู้เท่าทันโลก ของ สุจิตต์ วงษ์เทศ. สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก กันยายน 2547.
นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทะเล ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และชุมชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับทะเลอันดามัน ประชุม“โครงการศึกษาจัดทำเอกสารพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ” โดยส่วนศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยาแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ร่วมกับพันธมิตรสถานวิจัยความเป็นเลิศความหลากหลายทางชีวภาพแห่งคาบสมุทรไทย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดขึ้นเพื่อร่วมระดมความคิดเห็นและหยิบยกข้อมูลที่โดดเด่นของทะเลอันดามัน ทั้งเรื่องราวความสวยงาม ธรรมชาติที่น่าประทับใจ สิ่งมีชีวิตที่มีคุณค่า และร่องรอยอารยธรรมในบริเวณอันดามันของไทย
การจัดทำเอกสารพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันเพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ถือเป็นปฏิบัติการครั้งสำคัญในการผลักดันอันดามันขึ้นทะเบียนมรดกโลกแห่งใหม่
(ไทยโพสต์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2551 หน้า 4)
พระอภัยมณีกลางทะเลอันดามัน
“พระอภัยมณี" ของสุนทรภู่เป็นวรรณคดีระดับนานาชาติ เพราะใช้ฉากและ ตัวละครถึงค่อนโลก มีฉากและตัวละครหลักๆอยู่ในภูมิภาคอุษาคเนย์ทั้งผืนแผ่นดินใหญ่ถึงหมู่เกาะ และเหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดในทะเลเกือบทั้งหมดทะเลในเรื่องพระอภัยมณีไม่ใช่อ่าวไทย หรือ “ทะเลหน้าใน” ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของประเทศไทย แต่เป็น“ทะเลหน้านอก” ทางฟากตะวันตกของประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยทะเลอันดามัน อ่าวเบงกอล และมหาสมุทรอินเดีย (มีรายละเอียดอยู่ในหนังสือภูมิศาสตร์สุนทรภู่ ของ กาญจนาคพันธุ์)
ทะเล “นาควารินทร์สินธุ์สมุทร” ที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องพระอภัยมณีก็คือทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอล อยู่บนเส้นทางคมนาคมการค้านานาชาติที่เชื่อมระหว่าง ”ตะวันตก-ตะวันออก” ฉะนั้นจึงมีกำปั่นจากบ้านเมืองต่างๆผ่านไป-มามากมาย
สุนทรภู่กำหนดให้เกาะแก้วพิสดารเป็นสถานชุมนุมพวกเรือแตกในทะเลอันดามันด้วย เมื่อพระอภัยมณีมีอันเป็นไปต้องอยู่เกาะแก้วพิสดาร จึงมี“สานุศิษย์”เป็นชาวนานาชาติหลายภาษา แต่การพิจารณาเรื่องฉากใน“นิยาย”เรื่องพระอภัยมณีนี้ ไม่อาจจับตัววางตายแน่นอนให้ตรงใจสุนทรภู่ได้ทั้งหมด เพราะ“นิยาย”ก็คือ“นิยาย” ที่ใช้ทั้งสถานที่จริงเป็นฉากก็ได้ และใช้จินตนาการที่สร้างขึ้นเองโดยไม่จำเป็นต้องมีอยู่จริงในโลกเป็นฉากก็ได้
นาควารินทร์สินธุ์สมุทรศูนย์กลางของพระอภัยมณี
เรื่องพระอภัยมณีมีต้นเหตุเกิดเมื่อท้าวสิลราชเจ้าเมืองผลึกพาลูกสาวชื่อสุวรรณมาลีไปเที่ยวทะเลแล้วถูกพายุ “ถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนเป็นคลื่นคลั่ง เรือที่นั่งซัดไปไกลนักหนา จนพ้นแดนแผ่นดินสิ้นสายตา ไม่รู้ว่าจะไปหนตำบลใด” จึงตั้งพิธีเซ่นผีปู่เจ้าเพื่อถามทางว่าอยู่ที่ไหน? แล้วจะต้องกลับบ้านเมืองทางไหน? ปู่เจ้าบอก (ตอนเมาๆ) ว่า
ฝ่ายปู่เจ้าหาวเรอเผยอหน้า นั่งหลับตาเซื่องซึมดื่มอาหนี
แล้วว่ากูปู่เจ้าเขาคีรี ทะเลนี้มิใช่แคว้นแดนมนุษย์
ปรอทแร่แม่เหล็กก็มีมาก ชื่อว่านาควารินทร์สินธุ์สมุทร
ฝูงนาคมาอาศัยด้วยไกลครุฑ ถ้ายั้งหยุดอยู่ที่นี่จะมีภัย
จงตัดคลื่นฝืนไปทิศอิสาน จะพบพานผู้วิเศษข้างเพทไสย
จึงซักถามตามประสงค์จำนงใจ จงรีบไปเถิดออเจ้าเราจะลา
เมื่อมุ่งไปทางทิศอีสานก็ได้พบ-พระฤาษีเกาะแก้วพิสดาร พบพระอภัยมณีกับสินสมุทร พบใครต่อใครอีกมากมาย แล้วเรื่องวุ่นๆทั้งหลายก็เกิดขึ้นรอบๆทะเล“นาควารินทร์สินธุ์สมุทร”นี่ทั้งนั้น
ชื่อนี้สุนทรภู่เอามาจากเกาะนาควารี หรือ Nicobar Islands อยู่กลางทะเล อันดามันซึ่งมีเกาะใหญ่น้อยจำนวนมากเรียงรายตามแนวเหนือใต้ แต่มีหมู่เกาะใหญ่และสำคัญ 2 หมู่ยาวต่อเนื่องกันคือ หมู่เกาะอันดามัน (Andaman Islands)อยู่ตอนบน กับหมู่เกาะนิโคบาร์ (Nicobar Islands)อยู่ตอนล่าง (สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยึดเป็นฐานทัพ แต่หลังสงครามตกเป็นเขตของอินเดียจนถึงปัจจุบัน)
หมู่เกาะ 2 หมู่นี้ อยู่บนเส้นทางคมนาคมการค้าสมัยโบราณ ระหว่างภูมิภาคอุษาคเนย์กับบ้านเมืองแถบตะวันตก คืออินเดีย ลังกา และยุโรป จึงมีเอกสารกล่าวถึงเสมอๆ โดยเฉพาะหมู่เกาะนิโคบาร์เป็นที่รู้จักกันในชื่อ“นาควารี”และชื่ออื่นๆอีกหลายชื่อ
ชื่อ“นิโคบาร์” เพี้ยนมาจากชื่อ“นาควาระ”หมายถึงถิ่นนาค หรืองู หรือคนเปลือย เป็นชื่อเรียกที่เหยียดคนพื้นเมืองลงเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ในสมุดภาพไตรภูมิ ทำขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เขียนแผนที่โบราณระบุเมืองท่าชายฝั่งจนถึงลังกา ต้องมีชื่อและภาพนาควารีเกาะคนเปลือย ทุกฉบับ แสดงว่าเป็นสถานที่สำคัญระหว่างทางไปอินเดีย-ลังกา และเป็นที่รู้จักกว้างขวางในหมู่นักเดินเรือครั้งนั้น
สมัยปลายกรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินพระเจ้าบรมโกศ มีคณะสงฆ์จากราชอาณาจักรสยาม เดินทางไปประดิษฐานสยามวงศ์ในลังกาเมื่อ พ.ศ. 2298 ต้องไปทางเรืออ้อมแหลมมลายูผ่านเมืองมะลักกา มีบันทึกอยู่ในหนังสือ“เรื่องประดิษฐานพระสงฆ์สยามวงศ์ในลังกาทวีป” (พระนิพนธ์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ) ว่าต้องผ่านเกาะอันดามันกับเกาะนาควารีหรือนิโคบาร์
ครั้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก็ส่งพระสงฆ์ไปลังกาอีกเมื่อ พ.ศ. 2357 คราวนี้ให้พระสงฆ์อาศัยเรือค้าช้างของพ่อค้าลงเรือที่ควนธานีเมืองตรัง ผ่านเกาะยาวหน้าเกาะถลาง แล้วไปเกาะนาควารีใช้เวลา 6 วัน
สรุปว่า สุนทรภู่ได้ชื่อทะเล “นาควารินทร์สินธุ์สมุทร”มาจากชื่อเกาะนาควารีหรือนิโคบาร์ในสมุดภาพไตรภูมิ แล้วสมมุติให้ทะเลนาควารินทร์นี้กว้างไกลมหาศาล จึงอาจหมายถึงทะเลอันดามัน-อ่าวเบงกอล-และมหาสมุทรอินเดียทั้งหมดก็ได้
เกาะแก้วพิสดารเกาะในจินตนาการสุนทรภู่
เมื่อท้าวสิลราชเจ้าเมืองผลึกกับลูกสาวคือสุวรรณมาลีติดมรสุมอยู่กลางมหาสมุทร(อินเดีย) ปู่เจ้าบอกทางรอดว่า “จงตัดคลื่นฝืนไปทิศอิสาน จะพบพานผู้วิเศษข้างเพทไสย”
เมื่อมุ่งไปทางทิศอีสานก็ได้พบ-พระฤาษีเกาะแก้วพิสดาร-จริงๆ แสดงว่าเกาะแก้วพิสดารอยู่ในเขตทะเลอันดามันหรือที่ใดที่หนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย ไม่ใช่“เกาะเสม็ด”ในอ่าวไทยที่จังหวัดระยองอย่างที่เข้าใจกัน
ทะเลอันดามันไม่ได้มีเพียงหมู่เกาะนาควารี แต่มีหมู่เกาะอันดา มันและหมู่เกาะอื่นๆ เป็นพืดยืดยาวตามแนวพม่าลงไปถึงสุมาตราของอินโดนีเซียโน่น แม้เกาะของนางผีเสื้อสมุทร สุนทรภู่ก็กำหนดให้อยู่ในบริเวณนี้ด้วย คำว่า “ปีศาจ”-“ยักษ์”-“นาค”รวมทั้ง“ผีเสื้อ”(มาจาก“ผีเชื้อ”) ล้วนหมายถึงคนพื้นเมือง และดูเหมือนว่าเกาะอันเป็นถิ่นของนางผีเสื้อสมุทรจะอยู่ค่อนไปทางตอนบนแถบหมู่เกาะอันดามันที่บันทึกของพระสงฆ์บอกว่ามีมนุษย์กินคน ดังปากคำของนางเงือกที่บอกกับพระอภัยมณีระบุชัดเจนว่าบริเวณนี้มี“สำเภาชาวเกาะเมืองลังกา”แล่นผ่านไป-มาอยู่ด้วย แสดงว่าอยู่บนเส้นทางคมนาคมการค้าแถบทะเลอันดามันชัดเจน
บนเส้นทางคมนาคมการค้าในทะเลอันดามันนี้เอง มี“เกาะแก้วพิสดาร”ของพระฤาษีผู้วิเศษอยู่ด้วย ฉะนั้นจึงมี “พวกเรือแตกแขกฝรั่งแลอังกฤษ ขึ้นเป็นศิษย์อยู่สำนักนั้นหนักหนา”
เกาะแก้วพิสดารในจินตนาการของสุนทรภู่มีลักษณะ“อุดมคติสูง”มาก ดังกลอนว่า
อันเกาะแก้วพิสดารสถานนี้ โภชนาสาลีก็มีถม
แต่คราวหลังครั้งสมุทรโคดม มาสร้างสมสิกขาสมาทาน
เธอทำไร่ไว้ที่ริมภูเขาหลวง ครั้นแตกรวงออกมาเล่าเป็นข้าวสาร
ได้สืบพืชยืดอยู่แต่บูราณ จงคิดอ่านมาเคียวมาเกี่ยวไป
เรื่อง“โภชนาสาลีก็มีถม” นี้ “กาญจนาคพันธุ์”ได้สืบค้นนิทานปรัมปรา ของอินโดนีเซียเกี่ยวกับกำเนิดพันธุ์ข้าวในเกาะชวา เข้าใจว่าสุนทรภู่รู้นิยายปรัมปราของชวานี้ดี จึงสร้างเรื่องให้เกาะแก้วพิสดารมีข้าวเลี้ยงคนจำนวนมากได้
ข้าวปลาอาหารบนเกาะแก้วพิสดารที่อุดมสมบูรณ์นั้น มีทั้งข้าวเหนียว ข้าวเจ้า ข้าวฟ่าง และข้าวโพด หมายความว่าคนที่อยู่บนเกาะนี้ไม่ได้กินเผือกกินมันเหมือนพวกอันดามันกับพวกนาควารี
สรุปว่าเกาะแก้วพิสดารในจินตนาการของสุนทรภู่อยู่ทางใต้ของทะเลอันดามัน ค่อนลงไปทางเกาะสุมาตรากับเกาะชวาของอินโดนีเซีย
(ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 14 มีนาคม 2551 หน้า 20)
ความคิดเห็น